หลักการสำคัญของ AUN-QA นั้น ได้แก่ การมุ่งเน้นให้เกิดการจัดการศึกษาแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ หรือ Outcome-Based Learning กล่าวคือ มุ่งเน้นการพิจารณาการออกแบบผลลัพธ์จากการเรียนรู้และการออกแบบกระบวนการต่างๆ เพื่อมุ่งสู่ผลลัพธ์ดังกล่าวอย่างเป็นระบบ AUN-QA มุ่งเน้นให้หลักสูตรมีความสอดคล้องระหว่างการออกแบบเป้าหมายการเรียนรู้ของผู้เรียน การออกแบบกลยุทธ์การเรียนการสอน และการออกแบบการประเมินผลการเรียนรู้ หรืออาจกล่าวได้ว่ามุ่งเน้นการดำเนินการอย่างเป็นระบบนั่นเอง หากหลักสูตรมีการพิจารณาข้อมูลต่างๆ และวางแผนการดำเนินการ ตลอดจนบริหารหลักสูตรอย่างเป็นระบบแล้ว หลักสูตรย่อมสามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รอบด้าน ไม่เพียงแต่ผู้เรียนและผู้ใช้บัณฑิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้สอน สถาบัน รวมถึงหน่วยงานภายนอกต่างๆ อีกด้วย การดำเนินการอย่างเป็นระบบนี้เอง ยังก่อให้เกิดประโยชน์กับคณะฯ ที่ดำเนินการหลักสูตรนั้นๆ อีกด้วย กล่าวคือ เมื่อคณะดำเนินการพัฒนาคุณภาพตามแนวทาง EdPEx หรือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศแล้ว การดำเนินการบริหารหลักสูตรตามแนวทาง AUN-QA นั้นจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนากระบวนการทำงานในด้านการจัดการเรียนการสอน ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของคณะอีกด้วย
มหาวิทยาลัยทักษิณและส่วนงานวิชาการ
ได้มีการดำเนินงานตามระบบการประกันคุณภาพ ระดับหลักสูตร (AUN
QA) มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 คณาจารย์ในหลักสูตร
ได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานตามเกณฑ์ AUN QA และเป็นกรรมการประเมินคุณภาพหลักสูตรทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการดำเนินงานด้าน
AUN QA จากมุมมองคณะกรรมการประเมินคุณภาพหลักสูตร
คณาจารย์ประจำหลักสูตร ทำให้ได้แนวปฏิบัติที่ดี
เพื่อให้เกิดการดำเนินงานที่เป็นเลิศ ในด้านการบริหารจัดการ
และการเขียนรายงานประเมินคุณภาพหลักสูตร ดังนี้
1. การบริหารจัดการในระดับคณะ
1.1
ฝ่ายสนับสนุน ควรสนับสนุนข้อมูลในภาพรวมอย่างเพียงพอ และทันเวลา
ไม่สร้างภาระให้กับหลักสูตรในการหาข้อมูล เอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น
ผลงานนิสิต ผลงานอาจารย์ ข้อมูลการเดินทางไปปฏิบัติงาน หรือข้อมูลอื่นๆ และข้อมูลที่นำมาสนับสนุนการรายงานผลการดำเนินงานตามเกณฑ์
AUN
QA ควรมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาเขียนผลการดำเนินงาน
ปัญหา และแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจนมากขึ้น
1.2 การประชุมพูดคุยระหว่างคณะและหลักสูตร
เพื่อออกแบบการจัดเก็บข้อมูลให้สอดคล้องกับเกณฑ์
ง่ายต่อการนำข้อมูลมาใช้และรายงานข้อมูล หรือพัฒนาให้เกิด Smart
Office เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการนำข้อมูลไปใช้
1.3
การจัดการเชิงระบบเพื่อสนับสนุนการรายงานผล AUN QA เช่น
การคลี่เกณฑ์แต่ละด้านออกมาและวางแผนว่าจะจัดเก็บข้อมูลอย่างไรให้เป็นงาน Routine
หลักสูตรต้องการข้อมูลอะไรบ้าง
การประเมินระบบในภาพรวมของคณะ เพื่อนำผลการประเมินระบบมาเขียนให้เห็นการ A(Act)
1.4 การประชุมวางแผนการปฏิบัติงานประจำปี การจัดสรรงบประมาณประจำปี
และกรอบของกิจกรรม/โครงการ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการประกันคุณภาพระดับหลักสูตร
1.5 การติดตามข้อมูลที่ส่วนกลางของมหาวิทยาลัย
ดำเนินการประเมินให้ จะต้องทันเวลา และมีข้อมูลเพียงพอที่จะนำไปรายงานได้
1.6 การวางระบบงานของหลักสูตรเพื่อสนับสนุนการทำ
AUN
QA ที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้เกิดการขับเคลื่อนตลอดเวลา
แม้จะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหาร
ก็จะไม่มีผลต่อระบบหรือกระบวนการที่มีประสิทธิภาพที่วางไว้แล้ว
1.7 การสร้างขวัญ กำลังใจ
และการได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและฝ่ายสนับสนุน
เพื่อให้การดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย
1.8 การสร้างวัฒนธรรมให้เกิดคุณภาพ
และทำให้เป็นงานประจำ ทุกคนต้องเชื่อมั่นและศรัทธาในระบบประกันคุณภาพ
และหยิบจับส่วนที่ดีมาใช้พัฒนาองค์กร
2. การบริหารจัดการในระดับหลักสูตร
2.1 การวาง Output ไม่ชัดคืออุปสรรคในการพัฒนา หากต้องการให้ผลการดำเนินงานได้ตามเป้า ทุกคนควรมองที่เป้าเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ในหลักสูตร นิสิต ดูกระบวนการที่ทำว่าจะนำไปสู่เป้าหรือไม่
หรือทำอย่างไรให้ได้ถึงเป้าของหลักสูตร
2.2.
การเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการรายงานผลการประเมินคุณภาพหลักสูตร หลักสูตรควรออกแบบให้เป็นระบบและจัดเก็บเป็นประจำต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีการศึกษา
เพื่อไม่ให้เป็นภาระในภายหลัง
2.3
การดูตัวอย่างการเขียนจากมหาวิทยาลัยอื่นๆ หาตัวอย่างการเขียน เนื่องจากที่ผ่านมามีการปฏิบัติแต่นำมาเขียนไม่หมด
หลังจากปรับวิธีการเขียนตามตัวอย่างที่ไปศึกษามา ทำให้เขียนได้ดีขึ้น
และจะต้องเขียนบรรยาย มีการวิเคราะห์ประกอบ และการศึกษาคู่เทียบเพื่อให้เกิดการพัฒนา
2.4
ข้อมูลจากการประเมินการเรียนการสอนจากนิสิต
เป็นข้อมูลที่สำคัญที่สะท้อนปัญหาและโอกาสในการพัฒนาหลักสูตร
อาจารย์ควรสรุปรวมแต่ละประเด็น และรวบรวมประเด็นปัญหา เพื่อหาแนวทางในการพัฒนา
2.5
ประธานหลักสูตรและเลขาหลักสูตรมีบทบาทสำคัญในการดำเนินงานของหลักสูตร
ต้องมีข้อมูลของหลักสูตรเพียงพอและสามารถเติมเต็มข้อมูล
สื่อสารให้ทุกคนรู้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน
หากกรรมการมีการสอบถามจะได้ตอบไปในแนวทางเดียวกัน
2.6
รายวิชาที่เน้นการปฏิบัติ เช่น การฝึกงาน การฝึกสหกิจศึกษา
สามารถนำมาเขียนได้หลายประเด็น และทำให้ได้คะแนนสูง การปรับ มคอ.ของหลักสูตร
จึงต้องเน้นรายวิชาฝึกปฏิบัติให้มากขึ้น
3. เทคนิคการเขียนรายงานการประเมินคุณภาพ
ระดับหลักสูตร
3.1
การเขียนรายงานการประเมินคุณภาพระดับหลักสูตร
ควรมีการวางระบบการดำเนินงานตั้งแต่ต้นเพื่อไม่ให้การเขียนรายงานเป็นภาระงานที่เพิ่มขึ้นของแต่ละหลักสูตร
เช่น การแบ่งสัดส่วนความรับผิดชอบให้อาจารย์แต่ละท่านทราบตั้งแต่ต้นปีว่า
ได้รับผิดชอบตัวชี้วัดใด ในการปฏิบัติงานจะได้ออกแบบ วางแผนการปฏิบัติงาน
การเก็บรวบรวมข้อมูล/หลักฐาน หรือออกแบบกิจกรรม/โครงการ
ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของเกณฑ์ อาจารย์ทุกคนมีความรับผิดชอบกิจกรรมของหลักสูตร
และเมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเขียนรายงานการประเมินคุณภาพหลักสูตร
จะสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานแต่ละตัวบ่งชี้แล้ว “ทุกคนต้องร่วมมือกันในการเขียน
อย่าให้คนใดคนหนึ่งเป็นคนเขียน” และใช้ความร่วมแรง ร่วมใจกัน การแบ่งงานกันทำ
ในการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยมีประธานหลักสูตรเป็นผู้กำกับติดตามงานในภาพรวม
และอาจารย์ทุกคนในหลักสูตรจะรับผิดชอบการบริหารหลักสูตรไปพร้อมๆ กัน
3.2
ในการเขียนรายงาน AUN QA สามารถมอบหมายให้เขียนเป็นส่วนๆ
หรือแบ่งกันเขียนได้ แต่ “รายงานผลต้องไม่เป็นขนมชั้น” กรณีที่ต่างคนต่างเขียน
หลักสูตรจะต้องมีการประชุมพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง
เพื่อพิจารณารายงานและเติมเต็มให้สมบูรณ์ รวมทั้งการหาเอกสาร/หลักฐาน
ที่เกี่ยวข้อง
3.3
การเขียนรายงานการประเมินคุณภาพระดับหลักสูตร ให้ได้คะแนนสูงๆ นั้น
ผู้เขียนควรนำหลักการ PDCA มาใช้ (Plan คือ การวางแผน, DO คือ การปฏิบัติตามแผน, Check
คือ การตรวจสอบ, Act คือ
การปรับปรุงการดำเนินการอย่างเหมาะสม) เขียนให้เห็นถึงการพัฒนาและปรับปรุงจากข้อเสนอแนะของปีที่ผ่านมา
และให้ความสำคัญกับขั้นตอน Check, Act
ให้เห็นกระบวนการตรวจสอบและปรับปรุงพัฒนาของหลักสูตร
เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม
3.4 การทำความเข้าใจในเกณฑ์
และตอบคำถามตามเกณฑ์ให้ครบถ้วน รายงานข้อมูลแต่ละตัวชี้วัด ควรมีความจริงใจในการตอบคำถาม
ปัญหาคืออะไร จะพัฒนาและแก้ปัญหาอย่างไร เขียนตรงไปตรงมา หากไม่ได้ทำ ควรเขียนให้เห็นว่าจะวางแผนในปีหน้าอย่างไร
และไม่ลืมว่าปีที่แล้วได้เขียนอะไรไว้ มีการปฏิบัติตามแผนหรือไม่
มีการกำกับติดตามการดำเนินงานในที่ประชุมของคณะเป็นระยะๆ
เพื่อติดตามว่าสามารถดำเนินการได้ตามเป้าที่วางไว้เป็นหรือไม่
3.5 ผู้เขียนต้องเขียนเป็นเรื่องราวหรือเรื่องเล่า
(How
Story) เพื่อรายงานการดำเนินการและอธิบายกระบวนการทำงาน
โดยตอบคำถามว่า หลักสูตรดำเนินการเรื่องนั้นๆ อย่างไร การดำเนินการนั้นๆ
เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอะไร ในการดำเนินการมีใครเกี่ยวข้องบ้าง
การดำเนินการนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การดำเนินการนั้นเกิดขั้นที่ไหน
ที่มา : การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 และ
วันที่ 10 เมษายน 2562 ณ
คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
เรียบเรียง :
ธรรญชนก ขนอม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น